น่ารักอะปล่าว

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

วันศุกร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2552

สูตรอาหารลดความอ้วน


ความอ้วนไม่เพียงแต่จะทำให้ร่างกายไม่สวยงาม ยังเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้หลายทาง คนที่มีน้ำหนักมากเกินควร จะมีโอกาสเป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และโรคเบาหวานได้ง่ายกว่าคนปกติ ธรรมดา เพราะฉะนั้น ความอ้วน จึงถือเป็นโรคชนิดหนึ่งที่ต้องทำการรักษาแก้ไข เป็นที่ทราบกันดีว่าการลดน้ำหนักนั้น เป็นเรื่องยากลำบาก ต้องพยายามอดอาหาร หรือทานน้อยลง แล้วยังต้องออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ บางคนลดอาหารอยู่ได้ไม่นานก็หมดกำลังใจ กลับมาทานมากตามเดิม บางคนพยายามเดิน วิ่ง กระโดดเชือก หรือว่ายน้ำอยู่ได้ไม่กี่อาทิตย์ ก็รู้สึกเบื่อหน่าย ล้มเลิกไป การไปหาหมอให้ฉีดยาขับน้ำออกจากร่างกายมักจะมีผลแต่เพียงระหว่างเวลาที่ทำการรักษา เมื่อหยุดไป น้ำหนักก็ค่อยๆ เพิ่มกลับมา





วิธีหนึ่งที่มีประสิทธิภาพดี ในการช่วยลดความอ้วน โดยไม่ต้องลดจำนวนอาหารที่เราทานอยู่ หรือหักโหม ออกกำลังกายจนเกินควร วิธีนี้ขึ้นอยู่กับการรู้จักลักษณะของอาหารชนิดต่างๆ ที่เราบริโภค ประกอบกับการออกกำลังการเพียงเล็กน้อยสิ่งแรกที่จะต้องระลึกอยู่เสมอ คือ อาหารชนิดต่างๆ ที่เรารับประทานนี้ มีคุณสมบัติไม่เหมือนกัน อาหารบางชนิดมีจำนวน Calories สูง ทานแล้วอ้วน บางอย่างมีจำนวน Calories ต่ำ ทานได้จนอิ่ม น้ำหนักก็ไม่ขึ้น ตัวอย่างเช่น ถ้าทานเนื้อหมู 100 กรัม ร่างกายจะได้รับพลังงานถึง 400 Calories แต่ ถ้าท่านทานแตงกวา 100 กรัม ร่างกายจะได้รับพลังงานเพียง 15 Calories วันๆ หนึ่ง มนุษย์เราต้องการพลังงานจากอาหารเพียง 2000 ถึง 3000 Calories เท่านั้น คนที่นั่งๆ นอนๆ ไม่ค่อยออกกำลังกาย จะมีความต้องการพลังงานน้อย คนที่เล่นกีฬาออกกำลังอยู่เสมอ จะมีคามจำเป็นต้องได้พลังงานจากอาหารมากกว่า เพราะฉะนั้น ข้อแรกในการลดน้ำหนัก คือพยายามไม่ทานอาหารจำพวก Calories มากกว่าที่ร่างกายต้องการ สตรีไทยส่วนมาก รูปร่างไม่ใหญ่ และไม่ค่อยออกกำลังมากในชีวิตประจำวัน ทานอาหารเพียงวันละ 1500 ถึง 2000 Calories ก็จะมีรูปร่างสวยงามได้สิ่งที่สองที่ควรทราบ คือ อาหารแต่ละชนิดที่ท่านทานนี้ มีส่วนประกอบสำคัญอยู่ 3 อย่าง คือ ไขมัน ( fat โปรตีน ( protein ) และแป้ง ( carbohydrate ) ตัวที่เป็นอันตรายต่อร่างกายที่สุด คือ ไขมัน ไขมัน หรือ fat นี้ มีจำนวน Calories อยู่สูงมาก ทานเพียงเล็กน้อยก็สามารถทำให้อ้วนได้ คนที่ทานไขมันมาก จะมีไขมันอยู่ที่ร่างกายมากเกินควร ตามส่วนต่างๆ เช่น ใบหน้า ท้อง แขน ขา และสะโพกดูอุ้ยอ้ายน่าเกลียด เวลาตรวจเลือดดู จะพบไขมันอยู่ใน 2 ลักษณะ เป็นแบบ Cholesterol และแบบ Triglycerides เวลาไปให้แพทย์ตรวจร่างกาย ควรบอกให้หมอตรวจดูระดับของ Cholesterol และTriglycerides ในเลือดด้วย คนที่มีสุขภาพดี ระดับ Cholesterol ไม่ควรเกิน 250 mg.% และระดับ Triglycerides ไม่ควรเกิน 135 mg.% ถ้าเรามีไขมันในเส้นเลือดและในร่างกายมากเกินไป มันจะไปฝังตัวในเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงหัวใจ ทำให้เส้นเลือดนี้ตีบ และหัวใจวายเสียชีวิตตั้งแต่อายุน้อย นอกจากนั้น ยังเป็นที่ เชื่อกันว่าทานอาหารที่มีไขมันสูง อาจทำให้เป็น โรคมะเร็งในลำไส้ และมะเร็งในเต้านมได้







ท่านจะเห็นจากรายการอาหารที่แสดงไว้ว่า เ นื้อหมู เนื้อวัว ไข่แดง เนย และถั่วลิสง มีจำนวนไขมันอยู่สูง เนื้อชนิดอื่น เช่น เนื้อไก่ ปลา หอย ปู และกุ้ง กลับมีส่วนประกอบที่มีไขมันต่ำกว่ามาก มีแต่เนื้อเป็ด ที่ยังมีส่วน fat อยู่ถึง 50% เพราะฉะนั้น เวลาท่านนึกจะทานเนื้อ จะต้องคำนึงอยู่เสมอว่า เนื้อหมู เนื้อวัว นั้นจะทำให้อ้วน แต่ท่านสามารถทานเนื้อไก่ ปลา ปู กุ้ง หอย ได้เป็นจำนวนมาก ทานได้จนอิ่มทุกมื้อ ก็จะได้รับจำนวน Cholesterol น้อย และส่วนประกอบที่เป็นไขมัน จะต่ำ และดีต่อสุขภาพไข่นั้นมี Cholesterol สูง และมีส่วนประกอบเป็นไขมันมาก โดยเฉพาะตัวไข่แดง มีไขมันในรูป Calories อยู่เกือบเต็มใบ เพราะฉะนั้น ถ้าเราทานไข่มากเกินไป เช่น ทานแบบฝรั่งทุกเช้า 2-3 ฟอง แล้วยังทานมื้อเย็นเป็นไข่เจียวกับข้าวอีก จะทำให้เราอ้วนและเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ ไข่นี้ไม่จำเป็นต้องทานมากกว่าอาทิตย์ละ 2-3 ครั้งนม เนย และเนยแข็ง ก็มี Cholesterol สูง และมีส่วนประกอบเป็นไขมันเช่นเดียวกัน เนยนั้นมีถึง 700 calories ต่อ 100 กรัม ส่วน Cheddar Cheese นั้นมีถึง 400 calories ต่อ 100 กรัม ซึ่งๆ เท่ากับ Sirloin Steak เวลาทานนมหรือทานเนยแข็งดูเป็นของเบา ไม่หนักท้อง ความจริงแล้ว มันกลับทำให้เราอ้วนได้ ควรทานนมแบบ Skim Milk หรือ Low Fat Milk มากกว่า เนยแข็งแบบ Cottage Cheese พอทานได้ เพราะ Calories และส่วนไขมันไม่สูงเกินไป
ถ้าท่านสังเกตดูอาหารแบบถั่วหรือผัก จะเห็นว่า ถั่วงอกหรือถั่วลิสง ที่มี Calories สูงมาก ถั่วลิสงมี 550 และถั่วงอก 400 Calories ต่อ 100 กรัม ส่วนผักชนิดอื่นๆ เช่น แตงกวา ผักกาด มะเขือ กะหล่ำปลี หน่อไม้ มี Calories ต่ำมาก และยังส่วนประกอบที่เป็นไขมันไม่เกิน 5-10% อาหารแบบผลไม้ ก็คล้ายกับผัก คือมี Calories และส่วนไขมันต่ำมาก ยกเว้นลูกเกด (raisin) ซึ่งเป็นผลไม้อันเดียวที่ควรหลีกเลี่ยง ถ้าไม่อยากอ้วนอาหารแบบผักและผลไม้นี้ จะเห็นว่า ประกอบด้วยแป้งหรือ carbohydrate เป็นส่วนใหญ่ ในสมัยก่อน คิดกันว่าการทานอาหารแบบมีแป้งนี้ เป็นอันตรายต่อร่างกาย ในสมัยนี้ เกิดการเปลี่ยนความคิดและคำแนะนำใหม่ กลับเป็น ที่เชื่อกันว่าระบบอาหารที่ประกอบด้วยผักและผลไม้เป็นส่วนมากนี้ เป็นสิ่งที่ดีต่อร่างกาย ระบบการทานอาหารแบบ The Pritikin Diet ที่ Dr.Pritikin คิดขึ้นมา มีแต่ผักและผลไม้เป็นส่วนใหญ่ อนุญาตให้มีไขมันเพียง 5 % คำแนะนำของ Dr. Pritikin นี้ กำลังเป็นที่นิยม และนับถือกันมาก เพราะเอามาใช้กับคนอ้วน คนมีความดันโลหิตสูง คนที่เป็นเบาหวาน หรือเป็นโรคหัวใจ ได้ผลดีอย่างน่าประหลาดใจ ทำให้น้ำหนักลดลง หลายสิบโล ภายในไม่กี่อาทิตย์ โรคเบาหวานก็มีอาการดีขึ้น ความดันโลหิตก็ลดลงเนื่องจากเหตุผลที่กล่าวมาแล้ว คนที่ต้องการลดน้ำหนัก ควรทานอาหารมื้อเช้าแบบไทยๆ เช่น ข้าวต้ม พร้อมกับแกล้มนิดหน่อย ปลาเค็ม ผักดอง ขิงดอง ถ้าอยากทานไข่เค็ม พยายามทานไข่ขาว ให้มากกว่าไข่แดง เพราะมีไขมันมากมื้อกลางวัน ควรเลือกรับประทานอาหารแบบ carbohydrate เช่น ก๋วยเตี๋ยวแห้ง หรือน้ำ พยายามหลีกเลี่ยงก๋วยเตี๋ยวผัดราดหน้า ซึ่งมีไขมันมากกว่า ลูกชิ้นเนื้อวัวก็พอทานได้ เพราะเนื้อได้ถูกต้ม เอาไขมันไปมากแล้ว การทานแบบน้ำ จะทำให้ท้องรู้สึกแน่น และอิ่มเร็วมากกว่าทานแบบแห้ง ถ้าเราไม่หิวมาก ทานแต่ ผักผลไม้ เป็นอาหารกลางวันก็ได้มื้อเย็น ทานข้าวได้ แต่กับข้าวนี้ ควรมีปลา ปู กุ้ง หรือหอย เป็นส่วนใหญ่ ควรปิ้ง ย่าง นึ่ง หรือต้ม แทนที่จะผัด จะได้ไม่มีไขมันมาก และควรมีผักสดทานร่วมด้วยเสมอ ไก่นั้นทานได้ ส่วนเนื้อหรือหมู ควรต้มหรือแกงเสีย ก็จะช่วยให้น้ำหนักไม่ขึ้น ที่สำคัญ พยายามอย่าทานอาหารว่าง วิธีทานที่ดีที่สุด คือ ทานเมื่อเรารู้สึกหิว เท่านั้น ถ้าเราไม่หิว ก็แปลว่า ร่างกายเรายังไม่ต้องการอาหารเพิ่มเติม
สูตรอาหารลดน้ำหนัก ภายใน 7 วัน
มีบางคนใช้สูตรนี้แล้วสามารถลดได้ถึง 9 กิโลกรัมภายใน 7 วันแต่ก็ตามก็ขึ้นอยู่กับภาวะร่างกายของคนเรา ถ้าหากน้ำหนักมากๆ เกิน 80 กิโลกรัมขึ้นไป หากทำตามสูตรนี้ได้ เชื่อว่าน่าจะลดได้ 9 กิโลแน่ๆ แต่ขึ้นอยู่กับความตั้งใจของเราเท่านั้นเอง
วันที่ 1มื้อเช้า : ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาลมื้อกลางวัน : ไข่ต้ม 2 ฟอง กับผักต้มมื้อเย็น : สเต็กกับสลัดผักน้ำใส และผลไม้
วันที่ 2มื้อเช้า : ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาลกับขนมปังโฮลวีต 1 แผ่นมื้อกลางวัน : สเต็กหรือเนื้อหมู เนื้อวัวย่างก็ได้ กับสลัดผักเขียวและผลไม้มื้อเย็น : แฮมแผ่นต้มปริมาณเท่าใดก็ได้
วันที่ 3มื้อเช้า : ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาลกับขนมปังโฮลวีต 2 แผ่นมื้อกลางวัน : ไข่ต้ม 2 ฟอง และสลัดกับแครอทมื้อเย็น : แฮมแผ่นต้มปริมาณเท่าใดก็ได้
วันที่ 4มื้อเช้า : ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาลกับขนมปังโฮลวีต 1 แผ่นมื้อกลางวัน : ไข่ต้ม 1 ฟองกับแครอทต้มมื้อเย็น : ผลไม้และโยเกิร์ตรสธรรมชาติ
วันที่ 5มื้อเช้า : ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาลมื้อกลางวัน : ปลาเผาหรือปลาย่างกับผักต้มมื้อเย็น : สเต็ก หรือเนื้อย่างไม่ติดมัน กับสลัดผักสดน้ำใส
วันที่ 6 มื้อเช้า : ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาลมื้อกลางวัน : ไก่ย่างไม่ติดหนังมื้อเย็น : ไข่ต้ม 2 ฟอง กับแครอทต้ม
วันที่ 7 มื้อเช้า : กาแฟหรือชาบีบมะนาว แต่ไม่ใส่น้ำตาลมื้อกลางวัน : ผลไม้อะไรก็ได้ในปริมาณต้องการมื้อเย็น : อะไรก็ได้ทุกอย่างที่อยากทาน ไม่จำกัดปริมาณ

สูตรลกน้ำหนัก - สูตรลดความอ้วน.............................................................................................

วันนี้ Thaislender มีสูตรลดน้ำหนักมาฝากค่ะ สูตรลดน้ำหนักนั้นมีอยู่มากมาย ที่เรานำมานี้เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น เพื่อให้ผู้ที่สนใจเลือกนำไปใช้ ไปปฏิบัติกัน เพื่อรูปร่างสวย และ ยังมีสุขภาพที่ดีด้วยนะคะ

สูตรลดน้ำหนักของสมเด็จพระเทพฯ **ก่อนรับประทานอาหารควรดื่มน้ำก่อน 2 แก้ว**
วันแรก
มื้อเช้า : น้ำผลไม้หรือโยเกริต์ มื้อกลางวัน : ไข่ต้มสองฟอง มื้อเย็น : สลัดผัก
วันที่สอง
มื้อเช้า : น้ำผลไม้หรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาลไม่ใส่ครีม มื้อกลางวัน : ไข่ต้มสองฟอง มื้อเย็น : โยเกริต์
วันที่สาม
มื้อเช้า : โยเกริต์หรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาลไม่ใส่ครีม มื้อกลางวัน : เกาเหลาลูกชิ้นหมู มื้อเย็น : สับปะรด 1 ชิ้น
วันที่สี่
มื้อเช้า : ขนมปัง 1 แผ่น น้ำผลไม้หรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาลไม่ใส่ครีม มื้อกลางวัน : สลัดผักและไก่ย่าง 1 ชิ้น มื้อเย็น : โยเกริต์
วันที่ห้า
มื้อเช้า : น้ำผลไม้หรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาลไม่ใส่ครีม มื้อกลางวัน : ส้มตำและไก่ย่าง 1 ชิ้น มื้อเย็น : สลัดผัก
วันที่หก
มื้อเช้า : น้ำผลไม้หรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาลไม่ใส่ครีม มื้อกลางวัน : ปลานึ่งหรือปลาเผา มื้อเย็น : นมสด
วันที่เจ็ด
มื้อเช้า : ข้าวสวย 1 ทัพพี และหมูย่าง 1 ชิ้น หรือ ข้าวสวย 1 ทัพพี และไข่ต้ม 1 ลูก มื้อกลางวัน : เกาเหลาลูกชิ้นหมู มื้อเย็น : สับปะรด 1 ชิ้น
วันที่แปด
มื้อเช้า มื้อกลางวัน มื้อเย็น : ให้รับประทานอะไรก็ได้ตามใจชอบ แต่ถ้าอยากลดน้ำหนักต่อให้เริ่มทำตั้งแต่วันแรก
ที่มา : www.Thaislender.com

วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ร้านอาหารทะเลบ้านสวน


ร้านอาหารกึ่งผับ สไตล์และราคาเป็นกันเอง บริการอาหาร และเครื่องดื่ม พร้อมด้วย คาราโอเกะ เพื่อความบันเทิงใจของท่าน เหมาะแก่การสังสรรค์เป็นหมู่คณะ จัดเลี้ยงงานวันเกิด จัดเลี้ยงงานวันรับปริญญา หรือ เปลี่ยนบรรยากาศในการรับประทานอาหาร นอกบ้านกับครอบครัว เพื่อนฝูง หรือคนที่คุณรัก ด้วย อาหารเลิศรสพร้อมความบันเทิงยามค่ำคืน

ส่วนลด 50 % โปรโมชั่นเดือนนี้ ! รับส่วนลด 50% สำหรับผู้จัดเลี้ยงตรงกับวันเกิด (ส่วนลดเฉพาะค่าอาหาร)
** กรุณาสำรองโต๊ะล่วงหน้า โทร. 089-1176914 และแสดงบัตรประชาชนเพื่อรับ ส่วนลด 50

เมนูแนะนำ
ที่มา:เว็บไซต์ : http://www.buddygrouphotel.com/

สาระน่ารู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์



ชนิดของคอมพิวเตอร์ พัฒนาการทางคอมพิวเตอร์ได้ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง จากอดีตเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้หลอดสุญญากาศขนาดใหญ่ ใช้พลังงานไฟฟ้ามาก และอายุการใช้งานต่ำ เปลี่ยนมาใช้ทรานซิสเตอร์ที่ทำจากชินซิลิกอนเล็ก ๆ ใช้พลังงานไฟฟ้าต่ำ และผลิตได้จำนวนมาก ราคาถูก ต่อมาสามารถสร้างทรานซิสเตอร์จำนวนหลายแสนตัวบรรจุบนชิ้นซิลิกอนเล็ก ๆ เป็นวงจรรวมที่เรียกว่า ไมโครชิป (microchip) และใช้ไมโครชิปเป็นชิ้นส่วนหลักที่ประกอบอยู่ในคอมพิวเตอร์ ทำให้ขนาดของคอมพิวเตอร์เล็กลง ไมโครชิปที่มีขนาดเล็กนี้สามารถทำงานได้หลายหน้าที่ เช่น ทำหน้าที่เป็นหน่วยความจำสำหรับเก็บข้อมูล ทำหน้าที่เป็นหน่วยควบคุมอุปกรณ์รับเข้าและส่งออก หรือทำหน้าที่เป็นหน่วยประมวลผลกลาง ที่เรียกว่า ไมโครโพรเซสเซอร์ ไมโครโพรเซสเซอร์ หมายถึงหน่วยงานหลักในการคิดคำนวณ การบวกลบคูณหาร การเปรียบเทียบ การดำเนินการทางตรรกะ ตลอดจนการสั่งการเคลื่อนข้อมูลจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง หน่วยประมวลผลกลางนี้เรียกอีกอย่างว่า ซีพียู (Central Processing Unit : CPU)การพัฒนาไมโครชิปที่ทำหน้าที่เป็นไมโครโพรเซสเซอร์มีการกระทำอย่างต่อเนื่องทำให้มีคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ ๆ ที่ดีกว่าเกิดขึ้นเสมอ จึงเป็นการยากที่จะจำแนกชนิดของคอมพิวเตอร์ออกมาอย่างชัดเจน เพราะเทคโนโลยีได้พัฒนาอย่างรวดเร็ว ขีดความสามารถของคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กอาจมีประสิทธิภาพสูงกว่าคอมพิวเตอร์ ขนาดใหญ่ แต่อย่างไรก็ตามพอจะจำแนกชนิดคอมพิวเตอร์ตามสภาพการทำงานของระบบเทคโนโลยี ที่ประกอบอยู่และสภาพการใช้งานได้ดังนี้ ไมโครคอมพิวเตอร์ (Microcomputer) ไมโครคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดเล็ก บางคนเห็นว่าเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานส่วนบุคคล หรือเรียกว่า พีซี (Personal Computer : PC) สามารถใช้เป็นเครื่องต่อเชื่อมในเครือข่าย หรือใช้เป็นเครื่องปลายทาง (terminal) ซึ่งอาจจะทำหน้าที่เป็นเพียงอุปกรณ์รับและแสดงผลสำหรับป้อนข้อมูลและดู ผลลัพธ์ โดยดำเนินการการประมวลผลบนเครื่องอื่นในเครือข่าย อาจจะกล่าวได้ว่าไมโครคอมพิวเตอร์ คือเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีหน่วยประมวลผลกลางเป็นไมโครโพรเซสเซอร์ ใช้งานง่าย ทำงานในลักษณะส่วนบุคคลได้ สามารถแบ่งแยกไมโครคอมพิวเตอร์ตามขนาดของเครื่องได้ดังนี้ คอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ (desktop computer) เป็นไมโครคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดเล็กถูกออกแบบมาให้ตั้งบนโต๊ะ มีการแยกชิ้นส่วนประกอบเป็น ซีพียู จอภาพ และแผงแป้งอักขระ แล็ปท็อปคอมพิวเตอร์ (laptop computer) เป็นไมโครคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่วางใช้งานบนตักได้ จอภาพที่ใช้เป็นแบบแบนราบชนิดจอภาพผนึกเหลว (Liquid Crystal Display : LCD) น้ำหนักของเครื่องประมาณ 3-8 กิโลกรัม โน้ตบุ๊คคอมพิวเตอร์ (notebook computer) เป็นไมโครคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดและความหนามากกว่าแล็ปท็อป น้ำหนักประมาณ 1.5-3 กิโลกรัม จอภาพแสดงผลเป็นแบบราบชนิดมีทั้งแบบแสดงผลสีเดียว หรือแบบหลายสี โน้ตบุ๊คที่มีขายทั่วไปมีประสิทธิภาพและความสามารถเหมือน กับแล็ปท็อป ปาล์มท็อปคอมพิวเตอร์ (palmtop computer) เป็นไมโครคอมพิวเตอร์สำหรับทำงานเฉพาะอย่าง เช่นเป็นพจนานุกรม เป็นสมุดจนบันทึกประจำวัน บันทึกการนัดหมายและการเก็บข้อมูลเฉพาะบางอย่างที่สามารถพกพาติดตัวไปมาได้ สะดวก



ที่มา:Zone-IT.com

วันสบายๆ

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

ความประทับใจ